เรื่องย่อ Murder on the Orient Express (2017) ฆาตกรรมบนรถด่วนโอเรียนท์เอกซ์เพรส: “ฆาตกรอยู่กับเรา…ตอนนี้ บนรถไฟขบวนนี้…” หลังเที่ยงคืนเพียงไม่นาน รถด่วนโอเรียนท์เอ็กซ์เพรสอันมีชื่อเสียงต้องหยุดวิ่งกลางทางเพราะติดหิมะ ผู้โดยสารคนหนึ่งนอนเสียชีวิตอยู่ในห้อง ในลักษณะถูกแทงสิบสองครั้ง ประตูห้องล็อคจากด้านในขณะที่รถไฟติดพายุหิมะ และฆาตกรอยู่ท่ามกลางเหล่าผู้โดยสาร “แอร์กูล ปัวโรต์” จะต้องระบุตัวผู้ต้องสงสัยคนสำคัญให้ได้ จากบรรดาผู้โดยสารชาวต่างชาติหลากหลายที่แสดงท่าทีดูหมิ่นและหมดความอดทนก่อนที่ฆาตรกรจะทำการลงมืออีกครั้ง
จากผลงานนวนิยายสอบสวนอันลือลั่นของราชินีแห่งนวนิยายอาชญากรรม อกาธา คริสตี้ สู่จอภาพยนตร์ในชื่อเดียวกัน Murder on the Orient Express หรือในชื่อไทย คือ ฆาตกรรมบนรถด่วนโอเรียนท์เอกซ์เพรส กับการรีวิวหนังเรื่องนี้ นำแสดงโดย นักแสดงชื่อดังจากสหราชอาณาจักร เซอร์เคนเนธ บรานาห์ ร่วมด้วยดาราดังคับคั่งไม่ว่าจะเป็น จูดี้ เดนช์ , เพเนโลเป้ ครูซ , วิลเล่ม เดโฟ , มิเชล ไฟเฟอร์ และ จอห์นนี่ เด๊ป ซึ่งนอกจากท่านเซอร์เคนเนธจะรับบทนำในบทของนักสืบชื่อดังชาวเบลเจี้ยน แอร์คูล ปัวโรต์แล้วเขายังเป็นผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยตนเองเช่นกัน นอกจากนั้นยังได้ผู้กำกับดังอย่างริดลีย์ สกอตต์มาช่วยควบคุมการผลิต และไมเคิล กรีน มือเขียนบทจากหนังเรื่อง Blade Runner 2049 มาช่วยทำการดัดแปลงบทภาพยนต์เรื่องนี้ด้วย
ในปี 1934 หลังจากที่คลี่คลายเหตุจลาจลที่เยรูซาเล็ม นักสืบผู้รักความเพอร์เฟคต์ แอร์คูล ปัวโรต์ ( บรานาห์ ) ก็หวังจะได้เดินทางท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ อย่างเช่นเมืองสตัมบูล ( หรือที่เรียกว่าอิสตันบูลตามแต่ที่ใครจะปกครองเมืองนี้ )เพื่อผ่อนคลาย แต่แล้วเมื่อเขาได้เดินทางไปถึงเมืองสตัมบูลเขาก็ได้รับโทรเลขด่วนให้กลับไปยังลอนดอนเพื่อคลี่คลายคดีที่เกิดขึ้น ทำให้เขาต้องเปลี่ยนแผนการโดยขึ้นรถด่วนโอเรียนท์เอกซ์เพรสซึ่ง บุค ( เบทแมน ) เพื่อนของเขาที่เป็นผู้อำนวยการสายรถไฟดังกล่าวเป็นผู้จัดแจงให้ ปรากฏว่าเมื่อปัวโรต์ได้ขึ้นรถด่วนดังกล่าวกลับพบว่าตู้นอนบนรถไฟมีคนจองเต็มไม่มีที่ว่างเลย แต่เคราะห์ดีที่ผู้โดยสารคนนึงยังไม่มา เลยทำให้ปัวโรต์ได้ขึ้นรถขบวนนี้ ในระหว่างที่รถด่วนกำลังเดินทางบุคและปัวโรต์ได้สังเกตว่ามีเรื่องที่น่าประหลาดใจที่บุคคลในรถด่วนขบวนนี้มีผู้คนหลากเชื้อชาติหลายชนชั้นร่วมกันเดินทางอยู่ด้วย ไม่ว่าจะเป็น มิสเตอร์แรตต์เชท( เด๊ป )นายหน้าผู้ค้าของเก่า ซึ่งเดินทางมากับแมคควีน( แก๊ด ) เลขาของเขา และมาสเตอร์แมนผู้รับใช้ชาวอังกฤษ( จาโคบี้ ) เจ้าหญิงดราโกมิรอฟฟ์( เดนช์ ) กับผู้รับใช้ชาวเยอรมัน ( โคลแมน ) มิสซิสฮับบาร์ดหญิงม่ายชาวอเมริกัน( ไฟเฟอร์ ) มิสเดเบนแฮมครูสอนเด็กชาวอังกฤษ( ริดลี่ ) คุณหมอผิวสี ดร.อาบุธน็อต(โอดอม จูเนียร์) ศาสตราจารย์ชาวออสเตรีย(เดโฟ) มิชชันนารีชาวละติน(ครูซ) เซลล์แมนขายรถ(มาร์เกซ) นักการทูตชาวฮังการี เคานต์อันเดรลยี่(โปลูนิน) และภรรยา(บอยน์ตัน) ขณะที่รถด่วนกำลังวิ่งอยู่ที่เมืองวินโคชี่ได้เกิดหิมะถล่มทำให้รถตกรางการเดินทางต้องจึงหยุดชะงัก อีกทั้งยังเกิดเหตุไม่คาดฝันที่บนรถด่วนนั้นได้มีการฆาตกรรมเกิดขึ้น ซึ่งเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายก็คือมิสเตอร์แรตต์เชท และผู้ต้องสงสัยในคดีนี้จะเป็นใครไม่ได้นอกจากผู้โดยสารคนใดคนหนึ่งที่ร่วมเดินทางมาในตู้รถขบวนเดียวกันกับเขานั่นเอง บุคจึงขอร้องให้ปัวโรต์ช่วยสืบหาคนร้ายให้ทันก่อนที่รถไฟจะสามารถกลับมาเดินทางได้อีกครั้ง
สำหรับในบทของนักสืบปัวโรต์ ที่แสดงโดยเซอร์เคนเนธ ต้องบอกว่าฉีกบทไปพอสมควรเลยเมื่อเทียบกับเรื่องก่อนที่ท่านเซอร์แสดงไว้ ในบทบาทของผู้การเรือกองทัพอังกฤษในเรื่อง Dunkirk ที่เรื่องนั้นเล่นอย่างสุขุมนุ่มลึก ในขณะที่เรื่องนี้แกตีบทได้เนียนตาราวกับว่าแอร์กูลผู้หลงตัวเองและรักความสมบูรณ์แบบได้หลุดออกมาจากนิยาย จะมีผิดแผกกับนิยายบ้างก็ตรงที่รูปลักษณ์ภายนอกที่ในนิยายปัวโรต์จะหัวล้านและตัวเล็กๆ ในขณะที่ในหนังกลับผมเต็มศีรษะและตัวไม่เล็กเท่าไหร่ กับอารมณ์ขันที่ในหนังจะมีมากกว่าในนิยาย แต่นั่นก็เป็นแค่กะพี้ปลีกย่อย ท่านเซอร์แกเล่นได้แลดูว่าปัวโรต์นี่ช่างเป็นคนเยอะเสียนี่กระไร เรื่องมากเป็นที่สุด ทุกอย่างที่ออกมาจะต้องได้ตามมาตรฐานที่เขาต้องการผิดนิดนึงก็ไม่ได้ และที่สำคัญเรื่องการแต่งตัวโดยเฉพาะหนวดที่จะต้องป้องกันไม่ให้เสียทรงในขณะที่ผมยุ่งได้ไม่เป็นไร( ฮา ) แต่ในเรื่องทักษะไม่ว่าจะเป็นเรื่องการช่างสังเกต หรือเรื่องไหวพริบนั้น ปัวโรต์มีทักษะอย่างที่เรียกได้ว่าชั้นยอดมากๆ อะไรก็ตามที่ผิดแผกไปจากเดิม ปัวโรต์แกจะรู้หมด เพราะแกมีหลักการประจำใจที่เชื่อว่าโลกนี้ทุกอย่างจะต้องเป็นปกติ อะไรที่ผิดปกติไปแกจะสามารถเห็นได้ทันที ส่วนตัวละครอื่นๆ ก็เล่นได้มีมิติของตัวเอง อาจจะผิดแผกแตกต่างไปบ้างจากในนิยาย ก็เนื่องมาจากการที่หนังมันถูกจำกัดด้วยเวลาเพียงสองชั่วโมงหรืออาจจะเพื่อความเหมาะสมให้มีความหลากหลายเชื้อชาติจริงๆ จึงมีความจำเป็นต้องดัดแปลงบ้าง แต่ก็ไม่ได้ทำให้เสียอรรถรสมากและตัวละครทุกตัวนั้นสามารถแสดงผลบาทออกมาได้ดีเลยทีเดียว
